เป้าหมายหลัก (Understanding Goal)

Week 8



การเดินทางของนพกาล

มีหลากหลายเรื่องราวในชีวิตของคนเรา ที่เป็นความทรงจำอันแสนประทับใจ ประสบการณ์ที่ดี และมิตรภาพที่งดงาม มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราเปิดประตูออกจากบ้านและเริ่มต้นเดินทางเสมอ มีปรมาจารย์ทางภูมิศาสตร์ท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า "การเดินทางคือความเจริญงอกงาม"และในวันที่ได้เริ่มออกเดินทางไปปากช่องโดยรถไฟ ก็ทำให้รู้แล้วว่าคำกล่าวของปรมาจารย์ท่านนั้นเป็นจริง
เริ่มต้นเรื่องราวความประทับใจเกิดขึ้นตั้งแต่การวางแผนงาน การแบ่งภาระงานต่างๆ ภายในห้อง จากนั้นก็เห็นเรื่องราวน่ารักที่ชวนยิ้มตลอดระยะเวลาในการไปทำกิจกรรมที่ปากช่อง เห็นความเป็นผู้นำ ความรัก ความรับผิดความ ความกล้าเผชิญกลับคนแปลกหน้าบนรถไฟ โดยเริ่มจากการมองคนแบบเป็นมิตร พี่ๆ เข้าไปชวนพูดชวนคุยสารทุกข์สุขดิบ ทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนบนรถไฟ ในการที่จะมีสมุดบันทึกสถานีรถไฟว่าตลอดระยะทางที่นั่งรถไฟจะต้องผ่านกี่สถานี พี่ๆ ช่วยสร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะให้กับผู้คนที่สัญจรบนรถไฟ ทำให้การเดินทางในครั้งนี้ไม่เหงา นอกจากนี้ยังเห็นวิถีชีวิตผู้คนบนรถไฟที่บางคนอาจจะเริ่มต้นขึ้นรถไฟจากจุดเริ่มต้นเดียวกันแต่ปลายทางที่ลงไม่เหมือนกัน เปรียบได้กับชีวิตคนเรา บางคนเริ่มต้นพร้อมกันแต่ถึงเป้าหมายไม่พร้อมกัน อาจเกิดจากความพร้อมและศักยภาพของแต่ละคนที่มีไม่เท่ากัน เมื่อถึงสถานีที่ต้องลงพี่ๆ ยังบอกลาผู้โดยสารบนรถไฟ เป็นอีกเหตุการณ์ที่หน้าประทับใจ

เมื่อถึงสถานีปากช่องแล้ว เรื่องราวที่ประทับใจอีกเรื่องก็เกิดขึ้น คือ การติดต่อรถเพื่อเดินทางเข้าไปยังที่พัก ความงอกงามที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ คือ การบริหารค่าใช้จ่าย ความรู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เกิดขึ้นขณะที่ต้อลองราคารถโดยสาร พี่ๆ อยากได้รถในราคาที่ถูก แต่พี่ๆ ยังรู้จักการเห็นอกเห็นใจเจ้าของรถโดยสาร ว่าเขาจะไม่คุ้มค่าหากเราไปกันหมดทั้ง 26 คน รถอาจยางแตกและอาจเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย พี่ๆ จึงออกเงินร่วมกันโดยเก็บคนละ 20 บาท เพื่อจ่ายค่ารถอีกคัน แต่คนไหนที่มีไม่พอก็จะเก็บจากเพื่อนเท่าที่เพื่อนมี และคนที่มีเงินมากก็จะออกส่วนที่เหลือให้กับเพื่อน เมื่อถึงที่พักพี่ๆ ได้ตระเตรียมที่พักและรับผิดชอบงานตามที่แบ่งหน้าที่กัน ตอนเย็นได้ไปเรียนรู้การเขียนนิทานจากอาจารย์ปรีดา ปัญญาจันทร์ พี่ๆ เป็นนักเรียนรู้ที่ดี มีการตั้งคำถามทันทีที่เกิดข้อสงสัย


กิจกรรมในช่วงเช้าของวันเสาร์พี่ๆ ตื่นเช้าเพื่อจะไปปีนเขา เก็บบรรยากาศในช่วงเช้า แต่มีพี่ทับทิมที่ไม่สามรถไปปีนเขาได้ จึงรบหน้าที่เตรียมอาหารเช้าให้กับเพื่อนๆ เมนูที่ทำก็คือ ข้าวจี่กับข้าวต้มหมู สิ่งที่ประทับใจในครั้งนี้คือ การที่ช่วยกันกับทับทิมทำข้าวต้มครั้งแรกในชีวิต ซึ่งเราทั้งคู่ทำไม่เป็น จึงทำให้รสชาติและน่าตาของข้าวต้มไม่น่ากิน ทันทีที่พี่ๆ ลงมาจากเขา ทุกคนทำจมูกฟุดฟิดถามว่ากลิ่นอะไร แล้วต่างมุ่งตรงไปยังครัวพร้อมกับเปิดหม้อข้าวต้มพร้อมกับหน้าตาที่สงสัยว่าในหม้อมันคืออะไร แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร ขณะที่กินทุกคนกินราวกับว่ามันเอร็ดอร่อยพร้อมกับตั้งชื่อให้กับข้าวต้มในมื้อนี้ว่า “ข้าวต้มคลุกคลิกสูตรครูหนู” จากนั้นก็ทำกิจกรรมการแสดงละครตามหัวข้อที่เราจับได้ กิจกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ความสามัคคี การวางแผนและการจัดการเวลา จากนั้นได้เดินทางไปทำวัตรเย็นที่อาศรมวิริยะธรรม และทำพิธีเทียนขอบคุณและขอโทษเพื่อน ครู เห็นความจริงใจจากพี่ๆ กล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่ทำ กล้าที่จะขอโทษ และเคารพซึ่งกันและกัน




จากกิจกรรมนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าพี่ๆ เติบโตและงอกงามงามทางความคิด เป็นนักเรียนรู้ และนอกจากนี้พี่ๆ ยังพิสูจน์ให้ครูได้เห็นว่าพี่ๆ เติบโตเป็นผู้ที่สามารถดูแลตนเองได้และดูแลผู้อื่นได้ การเดินทางครั้งนี้นอกจากจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้แล้วยังมีผลพลอยได้ที่เกิดขึ้น คือ มิตรภาพที่เก็บไว้ในใจตลอดกาล เปรียบได้ว่า ชีวิต คือ การเดินทางเพื่อสะสมความทรงจำ ทุกๆ วันมีเรื่องราวให้จดจำใส่หน้ากระดาษเปล่าของชีวิต เพราะจดทุกเรื่องไว้ไม่ได้ เราจึงจดเฉพาะสิ่งสำคัญไว้ในใจ เมื่อย้อนกลับมาเปิดสมุดบันทึกเล่มนั้น ความทรงจำบางอย่างซีดจางไปตามกาลเวลาแต่ร่องรอยของมันก็ช่วยยืนยันกับเราว่าสิ่งสวยงามเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น